วิตามิน ดี (Vitamin D) คืออะไร?
วิตามิน ดี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีบทบาทที่สำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การดูดซึมแคลเซียม ในกระดูก ฟัน และระบบกล้ามเนื้อ อีกทั้ง วิตามินดี ยังช่วยในการทำงานของ ระบบหัวใจ, หลอดเลือดสมอง และความดันโลหิต เป็นต้น
บทบาทและหน้าที่ของวิตามิน ดี (Vitamin D)
- ทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันด่านแรกในร่างกายที่ใช้ป้องกัน / ต่อต้าน เชื้อโรคและไวรัสต่างๆ
- ส่งเสริมระบบต่อต้านการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน T cell และ Microphages ที่มีหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค
วิตามิน ดี (Vitamin D) ช่วยลดอัตราเสี่ยงติด COVID-19
วิตามิน ดี (Vitamin D) มีความสำคัญในการป้องกันและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ในระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก นอกจากนี้ การขาด วิตามิน ดี (Vitamin D)ทำให้กระบวนการ Cytokines Storm มากขึ้น เนื่องจาก Cytokines เป็นสารที่สร้างและหลั่งโดยเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน Cytokines หลายชนิดมีบทบาทในการก่อการอักเสบ ทำให้นำไปสู่การทำลายของเนื้อเยื่อ และความรุนแรงของโรคเพิ่มมากขึ้นเป็นสาเหตุของภาวะล้มเหลวของทางเดินหายใจทำให้เกิดภาวะหายใจลำบาก รวมถึงการลุกลามของโรค และความรุนแรงของ COVID -19 มากขึ้น
การเสริมวิตามินดี อาจช่วยลดระดับ Cytokines Storm ในระบบภูมิคุ้มกัน และการอักเสบจาก COVID-19 และเป็นที่ยอมรับส่วนใหญ่ว่าระดับวิตามินดีที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 30–60 นาโนกรัม / มิลลิลิตร (75–150 นาโนโมล / ลิตร)
*หมายเหตุ – ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถรักษา Covid -19 ได้โดยตรงแต่สามารถป้องกันทาง กายภาพ และทางสุขอนามัย ที่เหมาะสมให้กับตนเองก่อนได้ เพื่อลดความเสี่ยง อัตราการติดเชื้อ หรือ ลดอาการไม่ให้ลุกลามหนักจนเกินไป
รับ วิตามิน ดี (Vitamin D) ได้จากไหน?
ร่างกายได้รับ วิตามิน ดี (Vitamin D) สามารถได้เสริมได้ 2 ดังนี้
- จากการรับประทานอาหาร เช่น จากพืช กลุ่มเห็ดกระดุมเ ห็ดนางรม, เห็ดชิตาเกะ, ยีสต์, ธัญพืช, อัลมอนด์, ถั่วเหลือง และจากเนื้อสัตว์ กลุ่มน้ำมันตับปลา, เนื้อปลา, ไข่แดง, นม และเสริมในรูปแบบของวิตามิน (supplement)
- จากการโดนแสงแดด เนื่องจากในแสงแดดจะมีรังสีอัลตร้าไวโอเลต (รังสี UV) ที่จะเป็นตัวไปกระตุ้น และทำปฏิกิริยากับน้้ามันที่ผิวหนังให้เปลี่ยนมาเป็นวิตามินดีซึ่งจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายต่อไป
การรับแสงแดดทำได้โดยการสวมใส่เสื้อผ้าเผยผิวช่วงแขนและขา แสงแดดที่เหมาะสมต่อการสังเคราะห์วิตามินดี ควรเป็นแสงแดดอ่อน ๆ ที่ไม่แสบร้อนจนทำร้ายผิวในระยะยาวได้ ระยะเวลาในการรับแสงแดดขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยเฉลี่ยที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 10-15 นาทีต่อวัน ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เพราะแต่ละประเทศหรือแม้แต่พื้นที่ในประเทศเดียวกันก็มีความแตกต่างกันทางภูมิประเทศ ภูมิภาค สภาพอากาศ เป็นต้น